จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | นิยายแนวแฟนตาซี ผจญภัย |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา พุธเพชฌฆาต ผู้ประพันธ์ การ์ธ นิกซ์ รายละเอียด[ซ่อน] ชื่อต้นฉบับ Drowned Wednesday ผู้แปล แสงตะวัน ภาพปก หริรักษ์ มงคลพร ประเทศ ประเทศไทย ภาษา ไทย เรื่องชุด อาณาจักรแห่งกาลเวลา ประเภทหนังสือ นวนิยายแฟนตาซี, วรรณกรรมเยาวชน สำนักพิมพ์ สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์ในเครือสำนักพิมพ์แจ่มใส รูปแบบ หนังสือปกอ่อน พิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา หน้า 312 หน้า ISBN ISBN 974-93516-6-5 เล่มก่อนหน้า อาณาจักรแห่งกาลเวลา ตอน อังคารอหังการ เล่มถัดไป อาณาจักรแห่งกาลเวลา ตอน พฤหัสเจ้าศาสตรา พุธเพชฌฆาต เป็นหนังสือเล่มที่ 3 ของหนังสือชุดอาณาจักรแห่งกาลเวลา เขียนโดย การ์ธ นิกซ์ นักเขียนชาวออสเตรเลีย ปัจจุบันได้รับการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว โดยสำนักพิมพ์แจ่มใส ปัจจุบันออกจำหน่ายแล้ว 5 เล่ม อีก 4 เล่มคือ จันทร์มหันตภัย อังคารอหังการ พฤหัสเจ้าศาสตรา และ ศุกร์รัตติกาล ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ เนื้อหา[ซ่อน] 1 เนื้อเรื่องย่อ 2 ตัวละครสำคัญ 2.1 ท่านหญิงวันพุธ 2.2 ย่ำรุ่งของวันพุธ 2.3 เรือชีพเวอร์ 2.4 เรือฟลายอิ้ง แมนทิส 2.5 เรือมอธ 2.6 เรือของหนูเติบโต 2.7 สาวกคาร์พ 3 สถานที่สำคัญ 4 คำวิจารณ์ 5 อ้างอิง [แก้] เนื้อเรื่องย่อ หลังจากพิชิตอังคารเคร่งได้แล้ว อาเธอร์ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอีกครั้ง เขาได้พบกับลีฟ และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังตามสัญญา ลีฟแนะนำอาเธอร์ให้รีบจัดการวันข้างหน้าก่อนที่เขาจะโดนจัดการ แต่แล้วคลื่นลูกใหญ่ก็พัดพาเขาและลีฟผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เข้าสู่แนวพายุครืนครั่นของทะเลกั้นอาณาเขตอย่างไม่ทันระวังตัว ด้วยบัตรเชิญร่วมโต๊ะอาหารกลางวัน จากท่านหญิงวันพุธ อาเธอร์มีอันต้องผ่านเข้าสู่อาณาจักรแห่งกาลเวลาอีกครั้ง เขาได้พบกับคนแปลกๆ หลายคน ทั้งกะลาสี ลูกเรือ หนูเติบโต และนักเวทย์ อาเธอร์ได้รู้ถึงชะตากรรมที่วันพุธต้องคำสาป อุทกภัยครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตพลเมืองไปหลายคน และการท่วมท้นของทะเลกั้นอาณาเขตออกสู่ภายนอกบ้านและสุญญะ มีภัยต่างๆ รอคอยอยู่เบื้องหน้า ทั้งคลื่นลมโหมกระหน่ำ ปลาวาฬสีขาวขนาดยักษ์ที่กลืนกินทุกสิ่ง โจรสลัดฟีเวอร์ฟิวผู้โหดเหี้ยม รวมทั้งภารกิจตามหาลีฟ และการค้นหาพินัยกรรมส่วนที่สาม ระหว่างนี้ชะตากรรมของวันพุธผู้ถูกสาป พลเมืองในทะเลกั้นอาณาเขต บ้าน จักรวาล และลีฟอยู่ในกำมือของเด็กชาย อาเธอร์จะช่วยทุกๆ คนได้อย่างไร เขาจะอ้างสิทธิในกุญแจดอกที่สามได้ทันหรือไม่ พินัยกรรมส่วนที่สามอยู่ที่ไหน และเขาจะสามารถชนะโจรสลัดนักเวทย์ครึ่งนิทลิ่งครึ่งมนุษย์ผู้โหดร้ายได้อย่างไร [แก้] ตัวละครสำคัญ [แก้] ท่านหญิงวันพุธ ดูเพิ่มที่ ท่านหญิงวันพุธ [แก้] ย่ำรุ่งของวันพุธ ดูเพิ่มที่ ย่ำรุ่งของวันพุธ [แก้] เรือชีพเวอร์ (อังกฤษ: Shiver ภาษาไทย แปลว่า ความสั่นกลัว) เป็นเรือที่ทำขึ้นจากกระดูกของกอร์-ดราเค้น(นิทลิ่งชนิดหนึ่ง) เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น (แสดงว่าตัวจริงต้องใหญ่มาก) มีสองเสา ใบเรือเป็นรูปสามเหลี่ยมสีแดงเลือดหรือสีไวน์ เมื่อได้ยินชื่อชีฟเวอร์ทุกคนจะเกิดอาการสั่นกลัวเนื่องจากเป็นเรือของฟีเวอร์ฟิว หากใครเห็นชีฟเวอร์มักเป็นลางร้าย และหากเรือลำใดเผชิญกับชีฟเวอร์ก็จะถูกโจมตี ซึ่งลูกเรือผู้โชคร้ายเหล่านั้นอาจจะถูกใช้เป็นทาสหรือถูกฆ่าตาย กัปตันเอลิชาร์ ฟิเวอร์ฟิว (Captain Elishar Feverfew) กัปตันโจรสลัดแห่งเรือชีฟเวอร์ เป็นเป็นนักเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ โจรสลัดผู้เหี้ยมโหด และน่าเกรงขามที่สุดในทะเลกั้นอาณาเขต เดิมเป็นผู้รู้ตายมาก่อน แต่เมื่อหลุดเข้ามาในบ้านและร่ำเรียนเวทมนตร์จากสุญญะเป็นเวลานาน ทำให้เขากลายเป็นจอมขมังเวทย์ และถูกพิษสุญญะแทรกซึมเข้าไปในสายเลือด ทำให้เขากลายเป็นครึ่งนิทลิ่งครึ่งมนุษย์ เขาจึงใช้แถบผ้าเวทมนตร์พันรอบตัวให้ลวงตาผู้มองเป็นภาพโจรสลัดผู้หล่อเหลา ฟีเวอร์ฟิวมีอำนาจในการตรวจจับหาสมบัติที่ถูกขโมยโดยการใช้เครื่องหมายมือแดงและนกกาน้ำ มีอำนาจในการสะกดใจ อ่านใจ ฟีเวอร์ฟิวถูกวันข้างหน้าจ้างวานให้ขโมยพินัยกรรมที่วันพุธเป็นผู้ดูแลและนำไปซ่อนไว้ในท่าเรือลับของเขา ซึ่งทอดสมออยู่ในท้องของวันพุธ ท่าเรือลับของเขาทอดสมออยู่ในท้องของวันพุธ เพราะเป็นที่ซ่อนตัวยอดเยี่ยมและเก็บกู้สมบัติได้ง่าย ฟิเวอร์ฟิวจับตัวลีฟไปเพื่อเรียกค่าไถ่อาเธอร์ สุดท้ายจึงถูกอาเธอร์ตัดหัวกระเด็นลงบ่อสุญญะตาย ก่อนตายเขาใช้เวทมนตร์ทำให้โลกใบเล็กของตนยุบตัวลง [แก้] เรือฟลายอิ้ง แมนทิส (อังกฤษ: Flying Mantis ภาษาไทย แปลว่า ตั๊กแตนโบยบิน) เป็นหนึ่งในเรือดั้งเดิม 49 ลำของวันพุธ เป็นเรือใบสามเสา ใบเรือมีสีเขียวเรืองรองทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน มีบทบาทในการนำอาเธอร์มายังทะเลกั้นอาณาเขตเพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับท่านหญิงวันพุธ แต่กลับจับได้ลีฟไปแทน แมนทิสจับลีฟไปด้วยข้อหาลักลอบขึ้นเรือ จนเธอต้องตกเป็นเด็กชายประจำเรือของแมนทิส ต่อมาแมนทิสถูกชีฟเวอร์ยึดจนเสียหาย และต้องถูกทำลายลงเมื่อท่าเรือของฟิเวอร์ฟิวยุบตัวลง กัปตันเฮราคลิอุส สเวลล์ (Heraclius Swell) เป็นกัปตันเรือแมนทิส หมายเลข 15,287 ตามความสำคัญ หน้าตาหล่อเหลา เขาแต่งเครื่องแบบเต็มยศสีฟ้าเทอร์คอยส์แบบสอบเข้าตรงช่วงเอว บนไหล่และปลายแขนมีดิ้นทองมากมายประดับอยู่ เป็นเครื่องแบบที่ลอกมาจากชุดของพลเรือเอกในโลกแห่งหนึ่งในอาณาจักรชั้นที่สอง เขายังเป็นต้นหนนักเวทย์ของเรืออีกด้วย แพนนิคิน (Pannikin) เป็นรองกัปตันเรือแมนทิส เขามีหน้าตาหล่อเหลารองจากสเวลล์ หรือไม่ถึงกับหล่อมาก เพราะเขาหัวล้านและเสียหูไปข้างหนึ่งเนื่องจากการระเบิดของสุญญะ บางครั้งเขาก็ชอบสวมหมวกขนสัตว์สีม่วงแต่ลูกเรือมักจะบอกเขาว่ามันทำให้เขาดูแย่ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เขายังเป็นต้นต้นหนนักเวทย์ของเรืออีกคน อัลเบิร์ต (Albert) อัลเบิร์ตเป็นเด็กชายประจำเรือที่ประจำการอยู่บนเรือฟลายอิ้ง แมนทิสมานานแล้ว เป็นคนช่วยสอนลีฟให้รู้จักหน้าที่ของเด็กชายประจำเรือ เช่น ศัพท์เฉพาะต่างๆ ธรรมเนียม และการต่อสู้ เขาถูกฆ่าตายโดยอำนาจเวทมนตร์ของฟีเวอร์ฟิว หรืออาจจะเป็นตัวฟีเวอร์ฟิวเอง [แก้] เรือมอธ (อังกฤษ: Moth ภาษาไทย แปลว่า ผีเสื้อราตรี) เป็นเรือใบสองเสา เดิมเรือมอธเคยเป็นสำนักงานตรวจนับที่ท่าเรือวันพุธเก่า เมื่อเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่จึงแปรสภาพเป็นเรือ ในเรือยังมีห้องที่เคยอยู่ในสำนักงานตรวจนับและไม่ได้เปลี่ยนแปลง สามารถพาไปยังสำนักงานตรวจนับเก่าที่อยู่ที่ท่าเรือวันพุธเก่า แต่นักเวทย์บนเรือก็สามารถยึดมันติดเข้ากับเรือได้ เรือมอธพิเศษกว่าเรือลำอื่นๆ เนื่องจากมีเวลาพักยามบ่าย ซึ่งก็คือเวลา 5 นาทีซึ่งพวกเขาบนเรือจะมีขนมปังและน้ำชาอย่างไม่จำกัด โดยแผนกหนึ่งแผนกในบ้านเบื้องล่างยังคงส่งมาเป็นประจำโดยไม่มีวันถูกยกเลิก ลูกเรือมอธ มีดังนี้ กัปตันแคตาพิลโลว์ (Captain Catapillow) เป็นกัปตันเรือ ชอบสะสมแสตมป์จึงหวงชุดสะสมแสตมป์ของเขามาก คุณคอนคอร์ท (Mister Concort) เป็นรองกัปตัน "นิสัยดี แต่สมองทึบ" อดีตหัวหน้าเสมียนของสำนักงานตรวจนับเก่า ซันสกอร์ซ (Sunscorch) เดิมเคยเป็นผู้ช่วยกัปตันลำดับที่สี่ของเรือดั้งเดิม สไปรัล วอเตอร์สเปาท์ (Spiral Waterspout) จึงมีประสบการณ์ในการเดินเรือ มีรอยสักรูปพระอาทิตย์อยู่ที่แก้ม เป็นผู้ที่มีบทบาทมากที่สุดในเรือ ด็อกเตอร์ จ.ร.ล.สคาแมนดรอส (Dr J.R.L.Scamandros) เป็นต้นหนนักเวทย์ของเรือ ตัวเตี้ย มีรอยสักเคลื่อนที่ได้และเปลี่ยนรูปร่างได้ตามสภาพอารมณ์บนใบหน้า ได้รับการศึกษามาจากบ้านเบื้องบนกว่า 699 ปี แต่สอบตกในปีสุดท้าย (ทำข้อสอบหาย) มีตำแหน่งพันตรีในกองทัพแห่งมหาสถาปนิก วันเอียร์ (One-Ear) เดิมชื่อกอว์คิน (Gowkin) มีหูเดียวสมชื่อ ลิซาร์ด (Lizard) เป็นลูกเรือหญิงคนหนึ่งของมอธ มีรอยสักรูปเกล็ดสีน้ำเงินอยู่ทั่วหน้า อิคาบอด (Ichabod) เป็นผู้ช่วยของแคตาพิลโลว์ ลูกเรือมอธชอบเรียกเขาว่า พ่อหนุ่มต้นสน (loblolly boy) ทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ยาร์โค (Yarko) โย (Yeo) โบนส์ (Bones) และบอทเทิล (Bottle) เป็นลูกเรืออีก 4 คนที่ปรากฏในเรื่อง พวกเขามีหน้าที่พายเรือบดแต่ก็ไม่มีรายละเอียดมาก นอกนั้นยังมีลูกเรืออีกหลายคนที่ไม่ปรากฏชื่อ [แก้] เรือของหนูเติบโต เรือรัตตุส นาวิสที่สี่ (The Rattus Navis IV) (ภาษาไทย แปลว่า เรือของหนูลำที่ 4) เป็นเรือจักรไอน้ำขนาดใหญ่ซึ่งหนูเติบโตมักจะใช้กัน อังคารเคร่งสร้างมันเมื่อสี่พันปีก่อน มีเสากระโดงเรือสองเสาและใบเรือแบบขึงตามขวางอยู่คู่กับปล่องควัน เป็นที่รู้จักกันว่าเรือไอน้ำเป็นเรือโสโครกเนื่องจากมันปล่อยควันออกมาซึ่งแตกต่างกับเรือปกติที่อาศัยลมในการเคลื่อนที่ แต่จริงๆ แล้วมันสะอาดมาก ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เรือดำน้ำรัตตุส บาลาเอนา (The Rattus Balaena) เป็นเรือดำน้ำลำหนึ่งของหนูเติบโต ถูกสร้างโดยอังคารเคร่ง ภายในใหญ่กว่าที่มองจากภายนอกมาก ภายนอกเป็นโลหะ แต่ภายในกลับบุด้วยไม้กระดานสีเชอรี่และพรมทอลวดลายประณีต ภายในห้องบังคับการมีเฟอร์นิเจอร์วางอยู่มุมหนึ่ง สำหรับอำนวยความสะดวกให้แก่บุคคลอื่น ด้านหน้าเต็มไปด้วยแถวหน้าปัดและเครื่องมือที่มีกระจกปิด กับวงล้อและคันโยกมากมาย ตรงกลางมีแท่นควบคุมตั้งลูกแก้วซึ่งจะฉายภาพรอบเรือ 360 องศาและบนล่าง มีเก้าอี้ตรงล้อมหันหน้าเข้าหาแท่นควบคุม ด้านหลังก็มีห้องนิรภัยซึ่งจะพาเจ้าหน้าที่ผู้โดยสารออกไปถ้าหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือใช้ทำภารกิจต่างๆ ใช้ถ่านหินเร่งเร็วหนึ่งกระบอกเป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีการเปลี่ยนถ่ายทุกๆ หนึ่งศตวรรษ ที่มาของคำว่า บาลาเอนา มาจากชื่อสกุลของวาฬหัวลูกศร (Balaena mysticetus) สันนิษฐานว่ามีความคล้ายคลึงกับคำว่า โบโลนา ซึ่งเป็นไส้กรอกชนิดหนึ่ง มีความสมเหตุสมผลเนื่องจากมันมีรูปร่างคล้ายไส้กรอกและต้องแล่นเข้าไปในท้องของวันพุธจมตายเหมือนไส้กรอกที่เข้าไปอยู่ในปาก รายชื่อของหนูเติบโตที่ประจำการอยู่ในเรือ 2 ลำนี้ ดูที่ หนูเติบโต [แก้] สาวกคาร์พ บรรดาเหล่าทาสของฟีเวอร์ฟิวที่พินัยกรรมส่วนที่สาม(คาร์พ) ได้ใช้อำนาจแห่งพินัยกรรมปลดปล่อยพวกเขาจากพันธนาการ ทาสเหล่านั้นได้เข้ามาช่วยคาร์พและพาไปยังถ้ำที่เกิดจากพลังศรัทธา ซึ่งสร้างจากพลังของคาร์พบวกกับแรงศรัทธาของทาส หลังจากนั้นมาคาร์พก็ได้ปลดปล่อยทาสอีกมากเพื่อมาเป็นสาวกและสอนให้ศรัทธาต่อทุกสิ่ง รวมทั้งการมาถึงของทายาทผู้ทรงสิทธิ สาวกคาร์พมีอาวุธเป็นธนูปลายอาบสุญญะ เวลาปีนต้นไม้จะสวมรองเท้าและถุงมือที่มีกรงเล็บ สวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสีน้ำตาลอ่อนที่ปลูกราสีเขียวไว้เต็มสำหรับพรางตาศัตรู ดูเหมือนว่าราจะกระจายไปตามผิวหนังด้วย พวกเขาจะถามคนแปลกหน้าที่พบเจอว่ามีศรัทธาหรือเปล่าถ้าไม่มีก็จะฆ่าทิ้ง สาวกคาร์พมุ่งเรื่องศรัทธามาก ถ้าหากเจอพวกเขาต้องตั้งสติให้ดีและตอบทุกคำถามด้วยความศรัทธาจากหัวใจ สาวกที่ปรากฏชื่อ ได้แก่ เจเบเนเซอร์ (Jebenezer) สาวกลำดับที่ 1 แห่งคาร์พและอดีตผู้ช่วยเรือ ไนแอด เป็นหัวหน้าสาวก เขาเป็นสาวกที่มีบทบาทมากที่สุด เพนนีน่า (Pennina) สาวกลำดับที่ 2 กาแรม (Garam) สาวกลำดับที่ 3 โอเบลิน (Obelin) สาวกลำดับที่ 4 เฮรัช (Herush) สาวกลำดับที่ 5 เป็ปเปอร์โท (Peppertoe) สาวกลำดับที่ 6 ธินเอดริค (Thin Edric) สาวกลำดับที่ 7 ฟลอเรนซ่า (Florenza) สาวกที่ทำหน้าที่คุ้มกันอาเธอร์ ซูซี่และคาร์พ พาเดรอิค (Padraic) สาวกที่ทำหน้าที่คุ้มกันอาเธอร์ ซูซี่และคาร์พ [แก้] สถานที่สำคัญ แนวพายุ (The Line of Storm) ทางเชื่อมระหว่างทะเลกั้นอาณาเขตและอาณาจักรชั้นที่สอง แนวพายุจะมีกฎห้ามมิให้ผู้รู้ตายผ่านมาได้ ยกเว้นคำอนุญาตจากวันพุธ ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจะถูกเผาทำลายในทันที แนวพายุสร้างความเสียหายแก่บ้าน เนื่องจากมันแผ่เข้าไปในที่ที่ไม่ควรไป รวมถึงในสุญญะอีกด้วย ในตอน พฤหัสเจ้าศาสตรา คุณหญิงพรีมัสได้บอกกับอาเธอร์ว่าจะต้องมีการแก้ไขกว่า 30,000 จุด เพื่อให้ทะเลกั้นอาณาเขตกลับมามีประสิทธิภาพเหมือนเดิม ท่าเรือวันพุธ (Port Wednesday) เป็นท่าเรือใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ เพราะท่าเรือเก่าจมอยู่ใต้น้ำแล้ว โดยท่าเรือถูกสร้างใหม่แทนที่จุดชมวิววันพุธ ที่จอดเรืออยู่ภายในหุบเขาหินแกรนิตสูงหลายพันฟุต รอบๆ ตามสันเขามีอาคารสำนักงานต่างๆ มากมาย ดาวเคราะห์เจอเรน (Gerain) ดาวเคราะห์ดวงเล็กดวงหนึ่งในอาณาจักรชั้นที่สอง เป็นสถานที่ซึ่งอาเธอร์และลูกเรือมอธทั้งหมดหลบหนีฟีเวอร์ฟิวผ่านทางกรอบรูปทำนาย น้ำทะเลเป็นสีม่วง หาดทรายเป็นสีน้ำเงิน มีพระอาทิตย์สีแดงก่ำเป็นดาวแม่ สถานที่ที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่นั้นมีชื่อเต็มว่า หาดเคาน์เตอร์แครบ บนเกาะฟอร์ลอร์นแห่งทะเลยาเซอร์ หลังจากอาเธอร์ไปกับย่ำรุ่ง พวกเขาใช้เวลาซ่อมเรือนานถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ถึงเท่าตัว แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอดฟีเวอร์ฟิว สามเหลี่ยม (The Triangle) เดิมคือประภาคารสูงหลายพันฟุตของท่าเรือวันพุธเก่า เป็นสิ่งก่อสร้างเดียวที่ยังโผล่พ้นน้ำได้หลังจากเกิดอุทกภัย นอกนั้นอาคาร ชุมสายโทรศัพท์ และอื่นๆ จมอยู่ใต้น้ำไปแล้ว ส่วนที่โผล่พ้นน้ำเหลือแต่ยอดประภาคารทรงพีระมิดสามเหลี่ยม(พิระมิดที่มีสามด้าน) ด้านบนเป็นลานเกลี้ยงๆ มีห่วงวงใหญ่ตรึงอยู่ เอาไว้เป็นที่จอดเรือชั่วคราวท่ามกลางทะเลมหาโหด โดยเรือแต่ละลำก็จะผูกกับห่วงและเรือลำอื่นๆ เกิดเป็นรูปสามเหลี่ยมขึ้น ท่าเรือลับของฟิเวอร์ฟิว (โลกใบเล็ก - The Worldlet) เป็นสถานที่ที่อยู่ในฟองอากาศไร้สภาพซึ่งอยู่ภายในท่าเรือวันพุธ ฟิเวอร์ฟิวเอามันมาไว้ที่นี่เพราะมันเป็นที่ซ่อนยอดเยี่ยม ไม่มีใครพบเห็นได้ อีกเหตุผลคือมีสมบัติให้กอบกู้มากมายเพราะสมบัติส่วนใหญ่อยู่ลึกมาก มีแต่วันพุธปลาวาฬเท่านั้นที่สามารถลงไปถึงได้และกลืนมันลงไป และฟิเวอร์ฟิวจะสั่งทาสที่จับได้ให้ออกจากฟองอากาศไปกอบกู้ เกาะฟิเวอร์ฟิวซึ่งอยู่ภายในฟองอากาศเป็นเกาะรูปหัวกะโหลกขนาดยักษ์ เกาะนี้ยาวประมาณ 4,500 ก้าวคู่ และกว้าง 3,200 ก้าวคู่ เบ้าตาซ้ายเป็นทะเลสาบสีเหลืองที่มีน้ำปนสุญญะเดือดพล่านอยู่ เอาไว้ประหารทาสที่หนี โดยมีปลายไม้ขวางไม้ห้อยเชือกเอาไว้เพื่อผูกกับนักโทษแล้วเอาจุ่มลงในน้ำ มีแท่นนั่งชมอยู่ใกล้ๆ ส่วนเบ้าตาขวาแตกออกไปในทะเลเป็นท่าเรือ ซึ่งประกอบไปด้วยท่าเทียบเรือ อู่ต่อเรือ โกดังแปดหลัง ตึกใหญ่ 12 หลังซึ่งเป็นที่พักทาส และอาคารรูปดาวซึ่งคือ ป้อมฟิเฟอร์ฟิว รอบๆ เกาะเป็นป่าหย่อมๆ โพรงจมูกของเกาะเป็นแอ่งโคลนร้อนซึ่งเป็นสุญญะสด และขากรรไกรเป็นภูเขาป่าฝนรกครึ้มที่คดเคี้ยวไปมา เรียกว่า ภูเขาฟัน ซึ่งเป็นที่ซ่อนของคาร์พ และสาวกคาร์พ ทาสที่คาร์พช่วยพาหนี ดูเพิ่มที่ ทะเลกั้นอาณาเขต ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |